ตู้ MDB ( Main Distribution Board )
รับประกอบติดตั้ง ตู้ MDB และตู้ควบคุมไฟฟ้าต่างๆ เน้นคุณภาพ ราคายุติธรรม และมีบริการหลังการขาย โดยทีมช่างมืออาชีพ ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ผลิต ออกแบบ ตู้ MDB ตามสั่ง โดยทีมวิศวกรผู้ชำนาญงาน งานไว ราคายุติธรรม มีบริการหลังการขาย
ตู้ MDB เป็นแผงควบคุมไฟฟ้าเพื่อจ่ายไปยังโหลดไฟต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่แหล่งจ่ายไฟฟ้า ปริมาตรกำลังการใช้ไฟฟ้า ระบบป้องกัน กระแสไฟฟ้าลัดวงจร สามารถทำการปรับปรุงแก้ไขระบบไฟฟ้า บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า และเพื่อขยายระบบไฟฟ้าในอนาคตได้
ตู้ MDB หรือเรียกอีกอย่างว่า ตู้สวิทช์บอร์ด ชื่อเต็มๆของตู้ MDB คือ Main Distribution Board
ตู้MDB นิยมถูกนำไปใช้งานประเภท โรงงานขนาดกลางไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยส่วนมากจะมุ่งเน้นไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีการใช้งานของกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก ตู้MDB มีหลักการทำงานโดยจะรับกระแสไฟฟ้าจากหม้อแปลงแล้วจ่ายไปยังตู้ไฟฟ้าย่อยภายในโรงงาน จึงเปรียบเสมือนกับหัวใจของโรงงานมีหน้าที่ส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไปตามส่วนต่างๆของโรงงาน สำหรับการออกแบบตู้ MDB จะออกแบบจากกำลังการใช้กระแสไฟฟ้าจริงของโรงงานนั้นๆ จะมีส่วนเพิ่มเติมก็คือกำลังกระแสไฟฟ้าภายในอนาคต ทุกโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องมีการขยายโรงงาน และมีการขยากกำลังการผลิต ภาระทางไฟฟ้า การใช้งานต่างๆก็จะมีเพิ่มขึ้น เพราะฉนั้นในการออกแบบแต่ละครั้งจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงภาระการใช้ไฟฟ้าในอนาคตด้วย
สำหรับส่วนประกอบที่สำคัญของ ตู้MDB จะประกอบไปด้วย
1.โครงตู้สวิตช์บอร์ด (Enclosure) ทํามาจากแผ่นโลหะนำมาขึ้นรูปและประกอบเป็นโครงตู้ ตู้MDB แต่ละตู้จะมีส่วนที่แตกต่างกัน เช่นตัวบานประตูซึ่งอาจเปิดได้เฉพาะด้านหน้า หรือเปิดได้ทุกด้าน ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับการออกแบบ และการใช้งานของแต่ละโรงงาน ตู้MDB จะมีคุณสมบัติแยกย่อยได้หลายประเภทแต่จะมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้
คุณสมบัติที่สําคัญของตู้ MDB
1.คุณสมบัติทางกล คือรับแรงทางกลจากภายนอกได้เพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งภาวะปกติ และไม่ปกติได้
2.คุณสมบัติทางความร้อนคือทนความร้อนจากสภาพแวดล้อม ความผิดปกติในระบบและ อาร์กจากการลัดวงจรได้
3.คุณสมบัติต่อการกัดกร่อน คือสามารถทนการกัดกร่อนจากความชื้นและสารเคมีได้ นอกจากนี้ โครงตู้ยังทําหน้าที่ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ a.ป้องกันไม่ให้ผู้อยู่ใกล้สวิทช์บอร์ดสัมผัสถูกส่วนที่มีไฟ b.ป้องกันอุปกรณ์ภายในตู้จากสิ่งต่าง ๆ ภายนอกเช่น น้ำ วัตถุแข็ง สัตว์เลื้อยคลาน เป็นต้น c.ป้องกันอันตรายจากการอาร์กที่รุนแรงจนชิ้นส่วนอุปกรณ์อาจหลุดกระเด็นออกมา
2.บัสบาร์ ( Busbar ) ค่าว่า บัสบาร์ ( Busbar ) ทางวิศกรรมไฟฟ้าให้ นิยาม คำว่า บัส ( BUS ) ใช้เพื่ออธิบายจุดรวมของวงจรจำนวนมาก ซึ่งโดยทั่วไปจะหมายถึงจุดรวมที่มีวงจรไฟฟ้าจ่ายเข้าจำนวนน้อยและมีวงจร ไฟฟ้าจ่ายออกจำนวนมาก สถานีไฟฟ้าหรือแผงสวิตซ์จ่ายไฟฟ้าของระบบไฟฟ้าปัจจุบันจะต้องสามารถรับและ จ่ายกระแสไฟฟ้าได้ ปริมาณมากกระแสไฟฟ้าปริมาณมากจะทำให้เกิดแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ( Electromagnetic Force ) ขึ้นอย่างมหาศาล บัสบาร์ก็เหมือนอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ จะต้องสามารถทนต่อแรงเหล่านี้ได้ ดังนั้นโลหะที่จะใช้เป็นบัสบาร์จะต้องมีคุณสมบัติ ทางไฟฟ้า ทางกลที่ดี และสามารถทำงานได้ที่อุณหภิที่กำหนดให้
โลหะที่จะนำมาใช้ป็นบัสบาร์ ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
มีความต้านทานต่ำ ความแข็งแรงทางกลสูงในด้านแรงดึง แรงอัดและแรงฉีก ความต้านทานต่อ Fatigue Failure สูง ความต้านทานของ Surface Film ต่ำ การตัดต่อหรือดัด ทำได้สะดวก ความต้านทานต่อการกัดกร่อนสูง
คำว่า แท่ง ( Bar ) หมายถึง เส้นที่มีภาคตัดขวางสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความหนาตั้งแต่ 0.5 มิลลิเมตรขึ้นไป และมีความกว้าง ไม่เกิน 160 มิลลิเมตร บัสบาร์ มีทั้งชนิดที่ตัวนําทําด้วยทองแดงและอลูมิเนียม รูปร่างของบัสบาร์ที่นิยมใช้กันทั่วไปเป็นแบบ Flat คือ มีพื้นที่หน้าตัด เป็น รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เนื่องจากติดตั้งง่าย ระบายความร้อนดี แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.บัสบาร์แบบเปลือย 2.บัสบาร์แบบทาสี
ข้อแนะนําในการใช้บัสบาร์ บัสบาร์ควรวางในแนวดิ่งจึงจะระบายความร้อนได้ดี บัสบาร์แบบ Flat ควรขนานกันไม่เกิน 4 แท่ง ถ้ามากกว่านี้จะมีปัญหาเรื่อง Skin Effect บัสบาร์แบบทาสี สีที่ใช์ทาเคลือบบัสบาร์ ควรมีสัมประสิทธิ์การระบายความร้อนสูงประมาณ 0.9
บัสบาร์แบบทาสีนํากระแสได้สูงกว่าบัสบาร์แบบเปลือย กําหนดให้ใช้สีแดง เหลือง น้ำเงิน สําหรับเฟส R, Y, B ตามลําดับ การเรียงเฟสในสวิทช์บอร์ด (R, Y, B) ให้เรียงจากด้านหน้าไปยังด้านหลังตู้ จากบนลงล่าง หรือจาก ซ้ายไปขวา การเรียงเฟสลักษณะอื่นอนุญาตเฉพาะการเชื่อมต่อกับระบบที่มีอยู่แล้ว แต่ต้องทําเครื่องหมาย ให้เห็นชัดเจน
3. เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) สําหรับ MDB แรงต่ำ เบรกเกอร์ที่ใช้ทั่วไป มี 2 แบบ คือ Air Circuit Breaker : ใช้เป็นเมนเบรกเกอร์ในวงจรที่ใช้กระแสสูง เป็น เบรคเกอร์ที่ใช้กับแรงดันสูงตั้งแต่ 35-150 KA. โครงสร้างทั่วไปทำด้วยเหล็กมีช่องดับอาร์ก (Arcing chamber) ที่ใหญ่โตแข็งแรงเพื่อให้สามารถรับกระแสลัดวงจรจำนวนมากได้ Air CB. ที่มีขายในท้องตลาด มักใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตรวจจับ และวิเคราะห์กระแสเพื่อสั่งปลดวงจร Mold Case Circuit Breaker : ใช้กับวงจรย่อยหรือใช้เป็นเมนเบรกเกอร์ในตู้ MDB ขนาดเล็ก หมายถึง breaker ที่ถูกห่อหุ้มมิดชิดโดย mold 2 ส่วน มักทำด้วย phenolic ซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้าสามารถทนแรงดันใช้งานได้ breaker เบรกเกอร์แบบนี้ มีหน้าที่หลัก 2 ประการ คือ ทำหน้าที่เป็นสวิทซ์เปิด-ปิดด้วยมือ และเปิดวงจรโดยอัตโนมัติ เมื่อมีกระแสไหลเกิน หรือเกิดลัดวงจร โดย breaker เบรกเกอร์จะอยู่ในภาวะ trip ซึ่งอยู่กึ่งกลาง ระหว่าง ตำแหน่ง ON และ OFF เราสามารถ reset ใหม่ได้โดย กดคันโยกให้อยู่ ในตำแหน่ง OFF เสียก่อน แล้วค่อยโยกไปตำแหน่ง ON การทำงานแบบนี้เรียกว่า quick make , quick break
4. มิเตอร์วัดไฟฟ้า (Meter) มิเตอร์วัดพื้นฐานที่ใช้ในตู้ MDB ทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ มิตเตอร์แบบเข็มหรือเรียกอีกอย่างว่ามิตเตอร์ อนาล็อก และ มิเตอร์แบบดิจิตอล จะใช้ในการอ่าค่า โวลต์และแอมป์ ซึ่งถ้าเป็นมิเตอร์แบบเข็มจะมีการใช้งานร่วมใช้งานร่วมกับ Selector Switch เพื่อวัดแรงดันหรือกระแสในแต่ละเฟส พิกัดแรงดันของโวลต์มิเตอร์คือ 0-500V. ส่วนพิกัดกระแสของแอมมิเตอร์จะ ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของ Current Transformer เช่น 100/5A. เป็นต้น สำหรับมิเตอร์แบบดิจิตอลจะสามารถแสดงค่าของโวลต์และแอมป์เป็นตัวเลข ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ประเภท ของแต่ละรุ่น สําหรับตู้ MDB ขนาดใหญ่อาจมีมิเตอร์ประเภทอื่นๆ เช่น P.F. Meter, Watt Meter หรือ Var Meter เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับการออกแบบตู้ บางตู้ก็อาจติดตั้ง P.F. Controller เพื่อควบคุมค่า Power Factor อีกด้วย
5. อุปกรณ์อื่นๆ (Accessories) อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีในตู้ MDB ได้แก่ Current Transformer (CT) , Selector Switch , Pilot Lamp , Fuse , ฉนวนรองบัสบาร์
รับวายริ่งประกอบตู้คอนโทรล (Control Panel) (Main Distribution Board) (Distribution Board) (Load Center) และตู้ควบคุมอื่นๆตามต้องการ ทั้งงานเล็กงานใหญ่ ตรงตามคอนเซ็ป ราคาประหยัดคุยกันได้ ปรึกษาฟรี